กลุ่มอุตสาหกรรม พลังงานหมุนเวียน

Published

6 พฤศจิกายน 2563

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน 2563 กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน ได้ร่วมกันจัดงานสัมมนา AEDP ภาคประชาชน หรือ Alternative Energy Development Plan ภาค ประชาชน โดยได้รับเกียรติจาก คุณสมโภชน์ อาหุนัย ประธานสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมฯ เป็นประธานเปิดงาน ณ รร. อีสติน แกรนด์ สาทร

ภายในงานมีการนำเสนอปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะในการพัฒนาพลังงานต่าง ๆ อันได้แก่ การผลิตไฟฟ้าจากพืชเกษตร การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม การผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองหรือ Prosumer ยานยนต์ไฟฟ้าและสถานีอัดประจุไฟฟ้า โดยมีข้อเสนอ ดังนี้

 1. ข้อเสนอยานยนต์ไฟฟ้าและสถานีอัดประจุไฟฟ้า

ภาครัฐควรมีนโยบายส่งเสริมด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Infrastructure) ส่งเสริมความต้องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (Demand) ส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง (Supply) การกำ หนดมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าและสถานีอัดประจุไฟฟ้า และ การพัฒนาบุคคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งนโยบายการส่งเสริมของภาครัฐจะต้องมีการ ทำงานประสานกันระหว่างกระทรวง กรม และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการ ลงทุน การไฟฟ้าทั้ง 3 การไฟฟ้า เป็นต้น เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องมีการทำงานข้ามกระทรวง ทั้งนี้ ทางคณะทำงานยังมีการนำเสนอโครงการต้นแบบ รถหัวลากไฟฟ้าและสถานีอดประจุไฟฟ้า ซึ่งจะมีการนำรถบรรทุกหัวลากเก่ามาดัดแปลงเป็นรถบรรทุกไฟฟ้าจำนวน 13,500 คัน และ จะมีสถานี อัดประจุไฟฟ้าจำนวน 433 สถานีเพื่อรองรับการชาร์จไฟฟ้าของรถบรรทุกหัวลากไฟฟ้า ซึ่งได้มี การศึกษาไว้ถึง 3 เส้นทาง ได้แก่ กทม.-อีอีซี กทม.-สระบุรี และ กทม.-อยุธยา มูลค่าเงินลงทุนรวม 3 เส้นทางเป็นระยะเวลา 10 ปี เท่ากับ 127,878 ล้านบาท 

2. ข้อเสนอการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะ (Waste to Energy)

แนวคิดในการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันเริ่มจาก การลดปริมาณการทิ้งขยะ (Reduce) การนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) และการนำใช้ประโยชน์ใหม่ (Recycle) หรือหลัก (3Rs) ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการเกิดขยะ แต่ก็ยังเหลือปริมาณขยะจำนวนมากที่ยังไม่สามารถบริหารจัดการได้ การนำขยะมาผลิตไฟฟ้าก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการจัดการขยะชุมชน ซึ่งเราสามารถเปลี่ยน “Waste เป็น Wealth”ได้ ทางคณะผู้จัดทำ จึงมีข้อเสนอให้ภาครัฐลดขั้นตอนและความซับซ้อนการขออนุมัติโครงการโรงไฟฟ้า ขยะ ควรมีผังเมืองรองรับโครงการโรงไฟฟ้าขยะ ภาครัฐและภาคเอกชนสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ชุมชนเพื่อลดปัญหาการต่อต้านจากชุมชน ประชาชนควรมีการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางและองคก์ร ปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดเก็บและขนขยะแบบคัดแยกอย่างเป็นระบบ สถาบันการเงินควรสนับสนุนเงินทุนแก่โครงการโรงไฟฟ้าจากขยะ สนับสนุนงบประมาณแก่ อปท.ในการจัดการบริหารจัดการขยะ และ สามารถนา เชื้อเพลิงขยะ (RDF) ไปใช้เป็นเพลิงเสริมในโรงไฟฟ้าชีวมวลได้ในสัดส่วนไม่เกิน 20% ของปริมาณเชื้อเพลิงทั้งหมด 

3. ข้อเสนอการผลิตไฟฟ้าจากพืชเกษตร หรือ โรงไฟฟ้าชุมชน

โรงไฟฟ้าจากพืชเกษตรคือ โรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ เป็นพลังงานหมุนเวียนลำดับแรกเข้าสู่ระบบการผลิตไฟฟ้าของประเทศโครงการแรกเกิดขึ้นในปี 2542 โดยเป็นการนำของเหลือใช้ทางการเกษตรคือ ไม้ส้บและกากอ้อย มาใช้ป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล และได้พัฒนา ต่อเนื่องมาตลอด จนเชื้อเพลิงชีวมวลหลักที่จัดหาได้ง่าย เช่น แกลบ และทะลายปาล์มเปล่า จนเต็มศักยภาพ ทำให้มีการเพาะปลูกไม้โตเร็วเพื่อสนองความต้องการ ต้องถือว่าเป็นมิติใหม่ของการพัฒนา โรงไฟฟ้าโดยให้ชุมชนเกษตรกรฐานรากมีส่วนร่วมโดยตรงโดยการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าด้วย นอกเหนือจากการเป็นผู้จัดหาและจำหน่ายเชื้อเพลิง  ให้โรงไฟฟ้าอีกทางจะเป็นการสร้างการยอมรับของ ชุมชนได้เป็นย่าง ดีลดความขัดแย้งและลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้สู่ฐานรากได้อย่างตรงเป้า เป็นมาตรการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ไดร้บผลกระทบจากโควิด – 19 ได้อย่างมีประสิทธิผลอีกด้วย หากดำาเนินการ 150 MW จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจรวม 10,300 ล้านบาท และหากดำเนินการได้ตามแผน PDP 2018 Revised 1 ในปริมาณรวม 1,933MW มูลค่าทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 134,000 ล้านบาท รวมถึงการจ้างงานอีกร่วมหมื่นตำแหน่ง ถือเป็นความคุ้มค่า และเป็นโครงการที่ต้องรีบขับเคลื่อน โดยเร็ว 

4. ข้อเสนอการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม

ปัจจุบันต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ติดตั้งบนหลังคามีราคาถูกกว่าการซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้า หรือ ที่เรียกว่า Grid Parity ซึ่งประชาชนและภาคเอกชน สนใจที่จะติดตั้ง Solar Rooftop เป็นจำนวนมากแต่นโยบายภาครัฐในปัจจุบัน ยังไม่เอื้ออำนวยให้มีการติดตั้ง Solar Rooftop มากนัก ทางคณะทำงานฯ จึงเสนอให้ภาครัฐ ลดขั้นตอนตอนในการออก สามารถยื่นขออนุญาตทางออนไลน์ได้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านที่อยู่อาศัยไม่ต้องขอใบอนุญาต ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นสามารถขอใบอนุญาตติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ แทนการขอ อ.1 และ พค.2 หรือขอใบยกเว้น โดยที่ไม่ต้องขอ รง. 4 . ภาครัฐต้องมีการสื่อสารและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ Solar Rooftop ให้แก่ประชาชน อนุญาตให้มี การซื้อขายไฟฟ้าแบบ Peer to Peer หรือ การซื้อขายขายระหว่างกันได้ และมี National Energy Trading Platform เพื่อรองรับการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกัน P2P ภาครัฐควรมีการรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจาก Solar Rooftop ในอตัรา 2.60 บาทต่อหน่วย ส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อผลิตไฟฟ้าและใช้เอง และ ควรมีการสนับสนุนทางการเงินที่ครบวงจร ทั้งนี้การสนับ สนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ภาครัฐควรมีการกำหนดเป้าหมายในการรับซื้อไฟฟ้า จากพลังงานลมไว้ในแผน PDP อย่างชัดเจนโดยเพิ่มเป้าหมายพลังงานลมเป็น 7,000 เมกะวัตต์ กำหนดอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลมในอตัราที่เหมาะสม ควรมีการเปลี่ยนแปลงโครงข่ายไฟฟ้าที่เหมาะสม ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตและความซ้ำซ้อนลง 

5. ข้อเสนอการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง Prosumer

ภาครัฐควรส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง หรือ ที่เรียกว่า Prosumer ของประชาชนและอนุญาตให้ขาย ไฟฟ้าที่ผลิตได้และเกินกว่าความต้องการใช้ให้แก่คนอื่นได้ ซี่งเป็นการใช้โครงข่ายระบบส่งและระบบ จำหน่ายของการไฟฟ้าที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยภาครัฐควรมีนโยบายในการสนับสนุนเรื่องดังกล่าว ดังนั้นปรับข้อกฎหมายตลาดของพลังงานไฟฟ้าจาก Enhanced Single Buyer ไปสู่ Wholesale Power Market ปรับปรุง Grid Code ให้เหมาะสม และรองรับเทคโนโลยีปัจจุบัน เร่งพัฒนา Microgrid System ให้ ชัดเจนมากขึ้นและจัดทำ Road Map ที่เป็นรูปธรรม ในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของระบบไฟฟ้าเพื่อ รองรับการเข้ามาของ Prosumer พัฒนา Digital Energy Trading Platform เพื่อรองรับการซื้อขายไฟฟ้า ระหว่างกัน อนุญาตให้บุคคลที่สามสามารถใช้โครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าได้ (Third Party AccessTPA) และมีการกำหนดอัตราค่าบริการการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้า (Wheeling Charge) ที่ชัดเจน

ทั้งนี้ งานดังกล่าวได้รับความสนใจจากภาครัฐ และเอกชนชั้นนำด้านผพลังงาน รวมถึงนักศึกษาและนักวิชาการ อย่างดียิ่ง   

นอกจากนี้ มีการมอบรางวัลให้กับผู้ที่ผ่านเข้ารอบการประกวดโครงการ Renewable Energy for Startup 2020 ที่จัดโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ส.อ.ท. และมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชนภายในงานอีกด้วย

ประมวลภาพถ่ายงาน AEDP ภาคประชาชน

Download เอกสารประกอบงานสัมมนา AEDP ภาคประชาชน รอบสาธารณชน ในวันที่ 4 พ.ย. 2563