กลุ่มอุตสาหกรรม พลังงานหมุนเวียน

Published

10 มิถุนายน 2564

ASPS เปิดรายชื่อหุ้นรับอานิสงส์ รัฐเร่งหนุนไทยเป็นฐานผลิต รถ EV ยก 3 กลุ่มเด่น ทั้ง นิคมอย่าง AMATA-WHA กลุ่มโรงไฟฟ้าที่ทำแบตเตอรี่ ทั้ง EA – GPSC – BPP รวมทั้งกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์อย่าง STANLY – AH – SAT

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์รายวันว่า  กระแสยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถ EV ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง เห็นได้จากราคาหุ้นหลายตัว ปรับขึ้นโดดเด่นในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด ยังมีกระแสข่าว ว่ารัฐบาลกำลังเร่งหาทางดึงดูดบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีรถไฟฟ้า เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย เป้าหมายในการผลิตรถ EVให้ได้ 30% ของการผลิตรถยนต์ EV ในประเทศไทยภายในปี 73

ล่าสุด ได้เจรจากับบริษัทผู้นำในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถ EV จำนวน 8 บริษัท และมั่นใจว่าจะสามารถดึงเข้ามาตั้งโรงงานในไทยได้ไม่ต่ำกว่า 2-3 บริษัท  ซึ่ง ASPS เชื่อว่ากระแสข่าว จะเป็นปัจจัยบวกบวก และน่าจะเกิดกระแสเก็งกำไรหุ้น 3 กลุ่มคือ 
 
1. กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม : ดีต่อ AMATA, WHA

2. กลุ่มโรงไฟฟ้า  : บริษัทของไทยที่ผลิตแบตเตอรี่ในปัจจุบัน อาทิ
–  EA : กำลังผลิตติดตั้งแบตฯ 1,400 MW (โรงงานเฟส 1 + Amita ไต้หวัน) กำลังผลิตตามสัดส่วนถือหุ้น 980 MW กำหนด COD Q3/64 
–  PTT + GPSC : กำลังผลิตติดตั้งแบตฯ 1,030 MW กำลังผลิตตามสัดส่วนถือหุ้น 141 MW กำหนด COD (โรงงาน Enegy Storlage Q2/64 ส่วนใน AXXIVA ปี 65 )
–  BANPU + BPP :     กำลังผลิตติดตั้งแบตฯ 1,000 MW (ผลิตจริง ณ ปัจจุบัน 380 MW) กำลังผลิตตามสัดส่วนถือหุ้น 235 MW
 โดยแนะนำซื้อ GPSC (ราคาเป้าหมาย 82 บาท ) 

3. กลุ่มผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ : มองว่าเป็นไปตามคำสั่งซื้อ จากค่ายรถยนต์ที่มีฐานการผลิตในไทย (สัดส่วนผลิตเพื่อส่งออก 50% และผลิตเพื่อขายในประเทศ50%) โดยปัจจุบันการผลิตรถยนต์กว่า 80% ในไทย เป็นค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ซึ่งยังคงเน้นการผลิตรถยนต์ประเภทเครื่องยนต์สันดาปในไทย อาจมีเพิ่มในส่วนของรถ EV แต่ยังอยู่ในรูปแบบของ plug in hybrid (PHEV : ใช้ทั้งน้ำมันและสามารถชาร์จไฟได้) เช่น Mitsubishi Outander ที่ยังใช้ขึ้นส่วนรถยนต์ใกล้เคียงเดิม ภาพรวมยังประเมินไม่กระทบผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในไทยช่วง 3 – 5 ปี ต่อจากนี้

ขณะที่บริษัทในกลุ่มฯ ที่มีข่าวเกี่ยวกับ EV Car อย่าง CWT (Noncoverage) ที่ประกาศจะทำรถเมล์ เรือไฟฟ้า ราคาตั้งแต่ต้นปีปรับตัวขึ้นราว65% เชื่อว่าตอบรับประเด็นดังกล่าวบ้างส่วนแล้ว การเข้าเก็งกำไรอาจต้องใช้ความระมัดระวัง นอกจากนี้ชิ้นส่วน ประเภท เบาะรถยนต์ (IHL : Non coverage) และชิ้นส่วนไฟรถยนต์ (STANLY ราคาเป้าหมาย 220 บาท ) ที่ยังคงมีอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้า น่าสนใจภายใต้เทรนด์ EV

ทั้งนี้ยังคงน้ำหนัก หุ้นกลุ่มยานยนต์  เท่ากับตลาด แนวโน้มยอดผลิตรถยนต์ไทยปี 64 ผ่านจุดต่ำสุด เติบโต 12% yoy ที่ 1.6 ล้านคัน (ระดับปี 62 ที่ 2 ล้านคัน) แรงหนุนจากตลาดส่งออก ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า เลือก 
 
– SAT ( ราคาเป้าหมาย 24 บาท) มีออเดอร์ใหม่ในปี 65 จากผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไทยราว 330 ล้านบาทต่อปี (สัดส่วนราว 4% ของคาดการณ์ยอดขายปี 65) อีกทั้งมีจุดเด่นที่สถานะการเงินเป็น Net cash ราว 2.5 พันล้านบาท จึงคาดหวังเงิน ปันผลสูงสุดในกลุ่มฯ ราว 5%

–  AH( ราคาเป้าหมาย 30 บาท) ที่มีออเดอร์ใหม่จากผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ ตั้งแต่ ก.พ.2565 คิดเป็นราว 1.5 พันล้านบาทต่อปี (สัดส่วนราว 7% ของคาดการณ์ยอดขายปี 65)

Source : efinancethai.com