กลุ่มอุตสาหกรรม พลังงานหมุนเวียน

Published

24 พฤษภาคม 2561

เมื่อเวลา 10.30 . วันที่ 21 พฤษภาคม ที่กระทรวงการคลัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) นโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) ครั้งที่ 2/2561 ว่า บอร์ดพีพีพีได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งรัดโครงการภายใต้มาตรการพีพีพี ฟาสต์แทรค เพื่อให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่วางไว้ในปี 2561 นี้ อย่างไรก็ตาม หากมีโครงการที่มีปัญหาและอาจจะล่าช้า (ดีเลย์) ก็ให้มีการหารือกันเพราะไม่อยากให้ดีเลย์ถ้าไม่จำเป็น เพราะโครงการพีพีพีมีความสำคัญ สะท้อนถึงการใช้จ่ายภาครัฐและการลงทุนหรือตัว G (จี) ว่าจะออกมาเร็วหรือช้า ซึ่งจะมีผลต่ออัตราการขยายตัวเศรษฐกิจประเทศ (จีดีพี)

ทุกโครงการพยายามให้เป็นไปตาม เป้าหมาย โครงการที่มองว่าจะมีการชะลอตัวก็ให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรมทางหลวง มาคุยเพื่อปลดล็อก จะไม่ให้ดีเลย์ถ้าไม่จำเป็น แต่ถ้าติดปัญหาจริงๆ ต้องดีเลย์ต้องมาคุยกัน อย่างบางเส้นทาง เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ สายสีส้ม สายสีเหลืองและสายสีชมพู จะไม่ให้มีการดีเลย์ไปเรื่อยๆ เด็ดขาด ซึ่งขณะนี้บางเส้นที่ยังมีปัญหาการเวนคืนที่ดินก็พร้อมเดินหน้าแล้วนายสมคิดกล่าว

นายสมคิดกล่าวว่า จีดีพีไตรมาสแรก ปี 2561 ขยายตัว 4.8% พูดได้คำเดียวว่า สิ่งที่รัฐบาลทำงานอย่างหนักร่วมกับเอกชนเริ่มออกผล เพราะการที่จะให้จีดีพีมาถึงจุดนี้ไม่ใช่ว่าง่าย และรัฐบาลไม่ยอมรับสภาพเพียงอย่างเดียว พยายามเข้าไปดูรายละเอียดทุกจุด จุดไหนที่ยังไม่ดีก็ทำให้ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้หากดูจากตัวเลขที่ออกมาทุกเซ็กเตอร์ดีขึ้นหมด การลงทุนเอกชนสูงต่อเนื่อง 4 ไตรมาส ภาคเกษตรขยายตัวน่าพอใจ เป็นเรื่องที่ดีเพราะปัญหาภาคเกษตรที่สะสมมานานเริ่มคลายตัว ด้านการส่งออกและการท่องเที่ยวดีต่อเนื่อง

รบ.พยายาม5ปีดันสูงสุดรอบ5ปี

ตัวเลขจีดีพี 4.8% โตสูงสุดรอบ 20 ไตรมาสหรือรอบ 5 ปี เราใช้เวลากว่า 5 ปีมาถึงจุดนี้ได้ เมื่อตัวเลขจีดีพีดีขึ้นเอกชนก็มั่นใจว่าจะมีรายได้มากขึ้น ทั้งนี้ เมื่อโครงการพีพีพีออกมา การลงทุนที่พาดผ่านไปเส้นทางต่างๆ จะส่งผลดีโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ ถ้าอสังหาริมทรัพย์ดีอะไรหลายอย่างก็จะดีขึ้นเพราะมีความเกี่ยวโยงกันหมด การที่ตัวเลขจีดีพี 4.8% โตได้ระดับนี้ก็น่าดีใจแต่ไม่ได้ประหลาดใจเพราะเป็นสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นอยู่แล้วแต่ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อไร ซึ่งความสงบของบ้านเมืองเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่อย่างนั้นจะมาไม่ถึงจุดนี้ จีดีพีที่ 4.8% ก็พัฒนาการมาจาก 1% ขึ้นไปที่ 3% เป็น 3.3% และ 3.9% จนมาที่ 4.8% เป็นการเติบโตที่มีเสถียรภาพและแน่น เราทำงานไม่ดีมีแต่พูดอย่างเดียว หลายอย่างต้องอดทนถือเป็นเรื่องปกติ ก็อยากให้บ้านเมืองสงบทุกคนช่วยกัน และต้องมีการปฏิรูปเพราะถ้าไม่ปฏิรูปก็ไม่ยั่งยืนนายสมคิดกล่าว

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และกรรมการและเลขานุการบอร์ด พีพีพี กล่าวว่า โครงการภายใต้มาตรการพีพีพี ฟาสต์แทรคที่จะนำเสนอต่อบอร์ดพีพีพี พิจารณาในปี 2561 มีอย่างน้อย จำนวน 3 โครงการ ประมาณการมูลค่าเงินลงทุนรวม 446,874 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายนครปฐมชะอำ 80,600 ล้านบาท 2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูนวงแหวนกาญจนาภิเษก (สายสีม่วงใต้) 128,235 ล้านบาท 3.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันตกและตะวันออก 238,039 ล้านบาท ซึ่งสำหรับโครงการมอเตอร์เวย์ สายนครปฐมชะอำ นั้น กรมทางหลวงโดยความเห็นชอบจากรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ได้มีการนำส่งถึง สคร.แล้ว สคร.จะมีการนำเสนอให้บอร์ดพีพีพีพิจารณาเห็นชอบ ในการประชุมครั้งหน้า ช่วงต้นปลายเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือนกรกฎาคม